มาดูกันว่าพลังงานทดแทนต่างกับพลังงานทางเลือกอย่างไร
LEARN MORECONTACT USเว็บไซต์ biofuelreview.com เป็นเว็บไซต์นำเสนอข้อมูลและเรื่องราวสาระที่เกี่ยวข้องกับพลังและพลังทดแทน ซึ่งช่วยให้เรามีพลังงานเหลือใช้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น ทุกวันนี้ต้องพึ่งพาพลังงานอย่างมากในการดำรงชีวิต หากมีข้อสัยเกี่ยวกับเรื่องพลังงานหรือพลังงานทดแทนสามารถติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้ตามที่อยู่ในหน้าของ contact ได้เลย
การจัดสรรค์ข้อมูลในการสร้างเว็บไซต์และข้อมูลในส่วนต่างๆ ของเรา
เป็นเว็บไซต์ที่มีข้อมูลให้อ่านเยอะมาก ผมชอบมาก การเรียบเรียงบทความทำได้ดี ข่าวสารก็มีเข้ามาไม่ขาดเลย
ชอบการตกแต่งและออกแบบเว็บไซต์ของที่นี่มากๆ สวยจริงๆ
ถ้าหากพูดถึงพลังงานฟิวชั่นนั้นหลายคนอาจจะสงสัยและก็งงกันว่ามันคืออะไร บางคนอาจจะนึกไปถึงภาพโรงงานที่มีสารกัมมันตภาพรังสีเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหากเป็นโรงงานไฟฟ้าที่มีสารอันตรายแบบนั้น จะเรียกกันว่า “ปฏิกิริยาฟิชชัน( Nuclear Fission)” แต่การผลิตไฟฟ้าด้วย ปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบ ฟิวชั่นนั้น ช่างต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
จากการสำรวจนั้นพบว่า คนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ตัดสินใจซื้อนั้นเป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ดีต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ขณะที่สถานีในการชาร์จไฟฟ้ายังมีจำนวนไม่ครอบคลุมนัก ระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั้นค่อนข้างสั้น ระยะเวลาการชาร์จที่ค่อนข้างนาน และราคารถยนต์ที่สูงกว่ารถไอซีอี เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อผลการตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จากการสำรวจพบว่ามากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่ทำการตอบแบบสอบถามนั้นวางแผนที่จะซื้อรถยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า และรถยนต์ไฟฟ้าในประเภท บีอีวี เป็นรถที่ผู้บริโภคนั้นให้ความสนใจมากสุด โดยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มมากขึ้นตั้งแต่ในปีนี้จนถึงปีหน้า และจะเร่งตัวมากยิ่งขึ้นในปี 2024 เป็นต้นไป การแข่งขันที่สูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้เล่นในอุตสาหกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องรีบหาช่องทางในการปรับตัวและหาช่องทางในอุตสาหกรรมรถยนต์ยุคใหม่ เช่น การปรับรูปแบบของสินค้า และบริการ การหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การค้นหารูปแบบของธุรกิจใหม่ และการร่วมมือกับผู้เล่นรายอื่นทั้งในและนอกอุตสาหกรรม ซึ่งจะสามารถช่วยให้การแข่งขันนั้นเคลื่อนตัวต่อไปได้ ผลจากแบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยนั้น ตลอดไปจนถึงการตื่นตัวเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นในการที่จะพัฒนา Ecosystem ของรถยนต์ไฟฟ้าในทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ รวมไปถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐในเรื่องของการเพิ่มสถานีชาร์จ จากการที่พิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ผู้ใช้รถยนต์นั้นมีแนวโน้มที่จะทำการเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อที่ไม่ได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยร้อยละ 28 เท่านั้นที่จะใช้ยี่ห้อเดิม ส่วนร้อยละ 72 นั้น ต้องการจะเปลี่ยนยี่ห้อรถ และร้อยละ 13 นั้น มีความต้องการที่จะทำการซื้อรถยนต์จากผู้ผลิตรายใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำการผลิตรถยนต์ประเภทไอซีอีมาก่อน ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์ที่ยังปรับตัวไม่ทันอาจจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดได้ ความภักดีต่อแบรนด์ของผู้ใช้รถยนต์ที่ลดลงนั้นส่งสัญญาณให้เห็นว่าลูกค้านั้นมองว่ารถไฟฟ้าเป็นสินค้าในประเภทใหม่ ซึ่งมีผลต่อการมองหารถยนต์และบริการต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย แม้ผู้ผลิตรถยนต์ในรายดั้งเดิมนั้นจะถือไพ่เหนือกว่าผู้ผลิตรายใหม่ๆในตลาดในด้านของความคุ้นเคย แต่การปรับตัวต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงจะเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ในอนาคตได้ ปัญหาของรถยนต์ไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันนั้นคือสถานีการชาร์จไฟที่น้อย และเวลาการชาร์จที่ค่อนข้างนานยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญที่ต้องแก้ไข เพราะยังส่งผลต่อผู้บริโภคต่อการเลือกซื้อรถไฟฟ้า รวมถึงอาจที่จะยังไม่เลือกซื้อด้วยเหตุผลนี้ แต่โดยส่วนใหญ่ของการสำรวจผู้ใช้รถไฟฟ้าแล้วนั้น ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน และใช้บริการที่สถานีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ร้อยละ 73 ของผู้ที่ยังไม่ได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเชื่อว่าระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั้นเพียงพอต่อการใช้งานในปกติ ทำให้ร้อยละ 88 ของผู้ที่ทำการสำรวจจะยังคงชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านเป็นหลัก จะเห็นได้ชัดเลยว่า ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถที่จะใช้รถได้เป็นปกติในหนึ่งวันโดยการกลับมาชาร์จรถที่บ้านในช่วงเวลากลางคืนได้ จึงอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้บริการสถานีชาร์จมากอย่างที่คิดเอาไว้ จึงลดปัญหาในกรณีที่สถานีชาร์จยังครอบคลุมได้ รวมถึงปัญหาของระยะเวลาการชาร์จที่นานเกินไปดังนั้นการสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้บริโภคจะช่วยลดความกังวลในเรื่องของการชาร์จไฟฟ้าได้
พลังงานชีวภาพจากสาหร่าย หลายคนฟังแล้วแต่งงแน่นอน ไอ้เจ้าสาหร่ายที่เราเห็นกันทั่วไป ตามท้องทะเลจะกลายมาเป็นพลังงานได้ด้วยหรือ ถ้าพลังงานแก่ร่างกายก็คงไม่แปลกใจเพราะมันนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้ แต่พลังงานชีวภาพนี้สิเอ๊ะ! มันยังไงกันแน่ ? อ่านไม่ผิดหรอกทุกคนสาหร่ายนั้นเอามาไว้ใช้ทำเป็นพลังงานได้จริงๆ วันนี้จะมาพูดถึงพลังงานตัวหนึ่งของสาหร่ายนั้นก็คือเชื้อเพลิงจากสาหร่ายนั้นเอง เรามาดูกันดีกว่าว่าเชื้อเพลิงจากสาหร่ายนั้นคืออะไร และมีความเป็นมาอย่างไร เชื้อเพลิงสาหร่าย คือพลังงานเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง โดยใช้สาหร่ายเป็นวัตถุดิบ และพลังงานที่ใช้เจ้าสาหร่ายเป็นวัตถุดิบนี้เองก็จัดได้ว่าเป็นพลังงานสะอาดชนิดหนึ่ง ประเภทของเชื้อเพลิงที่ได้จากสาหร่ายนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ด้วยกัน 1. ประเภทของไบโอดีเซลจากสาหร่าย 2. ประเภทไบโอโซลีนจากสาหร่าย กระบวนการผลิตเชื้อเพลิงสาหร่าย ประกอบด้วย – กระบวนการเพาะเลี้ยงสาหร่าย – เก็บเกี่ยวจากธรรมชาติ – เพาะเลี้ยง – ระบบเปิดบ่อสาหร่าย – ระบบปิด เครื่องปฏิกริยาชีวภาพ – กระบวนการสกัดน้ำมันสาหร่าย – Solvent solvent extraction – กระบวนการแปรสภาพเป็นพลังงานเชื้อเพลิง – ใช้โดยตรง หรือ ผสมกับเชื้อเพลิงทั่วไป – En : microemulsion – En : tranesterification – acidic catalyzed transesterification – alkali catalyzed transesterification – enzymetic catalyzed transesterification – non catalyzed transesterification -En:pyrolysis
พลังงานคลื่น ? บางคนอาจจะสงสัยถ้าได้ยินคำนี้ พลังงานชนิดนี้มีอยู่ด้วยหรอ แล้วทำหน้าที่อะไร ใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้ผู้เขียนจะพาผู้อ่านมาหาคำตอบกัน พลังงานคลื่นนั้น คือพลังงาน ที่ใช้จากการเคลื่อนที่ของคลื่น หลายคนมักจะสับสนกับพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งต้องบอกว่าสำหรับพลังงาน 2 ชนิดนี้นั้นมีความต่างกัน พลังงานคลื่นนั้นอาจจะเป็นพลังงานที่มาจากการเคลื่อนที่ของน้ำทะเล แต่มีความแตกต่างกับพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงมาก สำหรับพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงนั้น ใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่ของกระแสน้ำ มันคือการขึ้นและลงของน้ำที่เกิดขึ้นโดยแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ดังนั้นจึงเป็นการใช้พลังงานจากทะเลที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไปในการที่จะผลิตเพื่อนำมาเป็นพลังงานต่างๆ แม้ว่ากระแสน้ำและคลื่นนั้นจะมีความเชื่อมโยงกันเป็นอย่างมาก แต่ทั้งสองอย่างนี้ก่อให้เกิดพลังงานทางทะเลที่แตกต่างกันออกไป พลังงานคลื่นหรือคลื่นนั้น มันได้ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของมัน เป็นพลังงานที่เรียกได้ว่ายั่งยืนด้วยศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของมัน เพราะมีคลื่นในทะเล และชายฝั่งของโลก อย่างมากมาย ในปัจจุบันนั้นมีหลายๆโครงการด้วยกันที่ใช้ประโยชน์จากคลื่น ซึ่งคำว่าคลื่นนั้น หรือ UNDI ในภาษากรีกมีความหมายว่า การเคลื่นไหว หรือ มอร์เตอร์ เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้ด้วยการเคลื่อนที่ของคลื่น และสำหรับพลังงานในชนิดนี้นั้น ถูกใช้ด้วยเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป อันที่จริงแล้วนั้น คลื่น เป็นผลมาจากแรงเสียดทานของอากาศบนผิวของทะเล ถึงแม้มันจะดูแปลกสำหรับการใช้คลื่นมาเป็นพลังงานนั้น แต่เพื่อให้ได้พลังงานที่มีค่าแล้ว คลื่นก็สามารถที่จะเป็นพลังงานอย่างหนึ่งในการที่เราจะเลือกใช้มันได้เหมือนกัน การใช้พลังงานคลื่นนั้น เครื่องจักรต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นจะถูกติดตั้งขึ้นมาใต้ทะเล กังหันที่ด้านล่างของทะเลนี้ จะถูกติดเข้ากับทุ่น ทุ่นจะทำหน้าที่ส่งการทำงานของคลื่นไปยังกังหัน เพื่อที่จะทำการสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นมา โดยปกติแล้วคลื่นจะเข้าสู่ห้องอากาศยกระดับน้ำโดยการอัดเอาอากาศเข้าไปภายในซึ่ง อากาศนั้นจะถูกไล่ออกมาจากช่องทางด้านบน และกังหันก็จะทำงาน ได้ออกมาเป็นพลังงานไฟฟ้านั้นเอง แต่ทั้งนั้น พลังงานคลื่นก็ยังถือว่าอยู่ในส่วนที่ต้องทำการศึกษาและปรับปรุง เพื่อที่จะดึงมันมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะมันเป็นแหล่งพลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียน ที่ทะเลนั้น สามารถที่จะมอบให้เราเป็นทรัพยากร ที่ไม่มีวันหมดสิ้นไปได้ โรงงานเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกนั้น มีชื่อว่า โครงการ Carnegie Wave Energy
พลังงานในรูปแบบต่างๆ จัดเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะทำให้ประเทศนั้นได้มีการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน เมื่อพูดถึงพลังงานในประเทศไทยนั้นก็มีอยู่มากมายหลายพลังงานเลยทีเดียวแต่สำหรับในบทความนี้เราจะมานำเสนอในเรื่องของสัดส่วนการใช้พลังงานในประเทศไทยว่าเป็นอย่างไรเพื่อทำให้คุณผู้อ่านเห็นภาพและเกิดความเข้าใจได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พลังงานน้ำมัน อันดับ 1 ของโลก ถ้าพูดถึงพลังงานที่เป็นอันดับ 1 ของโลก ณ ตอนนี้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นพลังงานน้ำมัน ซึ่งเป็นพลังงานที่ประเทศไทยยังต้องซื้อมาจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่มีราคาสูง ปัจจุบันในประเทศไทยของเรานั้นต้องต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึง 80 % จากมูลค่าเดิม 300 ล้านบาท กลายเป็น 500 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2560 โดยคิดเป็นจำนวนกว่า 10 % ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด ในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย พลังงานที่มีความสำคัญที่สุด ก็คือ น้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งเป็นจำนวน 45 % ของพลังงานทั้งหมดรองลงมาก็คือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้มาจากแหล่งผลิตในอ่าวไทย แต่ช่วงระยะหลังๆ นี้ ก๊าซธรรมชาติได้รับความนิยมมาก จึงทำให้มีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการผลิตไม่ทันจึงต้องมีการนำเข้าจากพม่า ส่วนการใช้พลังงานถ่านหินนั้น มีสัดส่วน 10 % ของพลังงานทั้งหมด ในช่วงยุคแรกนั้นมีการใช้ถ่านหินลิกไนต์ที่มีอยู่มากในประเทศ แต่ต่อมาก็ได้มีการนำเข้าถ่านหินจากต่างประเทศ ซึ่งมีคุณภาพดีกว่ามาใช้มากขึ้นส่วนทางด้านพลังงานหมุนเวียนนั้นก็นำมีการใช้งานมากขึ้น ในรูปแบบของถ่านฟืนและแกลบซึ่งพบมากในครัวเรือนชนบทและอุตสาหกรรมบางประเภท อุตสาหกรรมและการขนส่ง กำลังหลัก จากการนำหลักการวิเคราะห์พลังงานในสาขาเศรษฐกิจในประเทศไทยจำนวน 70 % พบว่าพลังงานถูกนำไปใช้ใน 2 สาขาใหญ่นั่น ก็คือ อุตสาหกรรมและการขนส่ง โดยทั้ง 2 สาขานี้ มีการใช้พลังงานในสัดส่วนที่สูงมาโดยตลอด ในทุกๆ ปี แต่การใช้พลังงานในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มสูงขึ้น
‘พลังงาน’ เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งพลังงานในโลกเหล่านี้ ก็จัดแบ่งออกเป็นมากมายหลายประเภท โดยพลังงานบางประเภทเมื่อใช้แล้วและก็มีแต่วันจะหมดไป อีกทั้งยังส่งผลลัพธ์ตกค้างที่ไม่พึงประสงค์ให้แก่โลกอีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์อันเลวร้ายเหล่านั้นบางครั้งก็ยากที่จะกำจัด สำหรับพลังงานในโลกยุคใหม่นี้ จึงมีการคิดค้นพลังงานที่ใช้ได้อย่างไม่มีวันสูญก็สิ้น และที่สำคัญไม่ส่งผลเสียต่อโลก ซึ่งหนึ่งในพลังงานนั้นก็คือ ‘ก๊าซธรรมชาติ’ ก๊าซธรรมชาติ คืออะไร? คือ ก๊าซที่มีความหลากหลาย ซึ่งมีส่วนผสมของ ไฮโดรคาร์บอน โดยก๊าซชนิดนี้สามารถพบได้ในธรรมชาติ เช่น มีเทน, อีเทน, โพรเพน , เพนเทน เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมสิ่งเจือปนอื่นๆ ที่ สามารถพบได้จากธรรมชาติเช่นเดียวกัน เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น สำหรับการเกิดขึ้นของก๊าซธรรมชาตินั้น ก็มาจากการทับถมกันของซากพืชและซากสัตว์ จำนวนมหาศาล โดยกระจุกตัวอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง อีกทั้งยังต้องผ่านการสะสมมาเป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งก่อให้เกิดเป็นก๊าซธรรมชาติประเภทนี้ขึ้นมา โดยประกอบด้วยสารประกอบต่างๆ เช่น มีเทน, อีเทน, โพรเพนเพนเทน, เฮปเซน เป็นต้น สำหรับก๊าซธรรมชาตินั้นมีมากมายหลากหลายประเภท โดยบางประเภทก็อาจจะ ได้มาจากแหล่งที่ประกอบด้วยก๊าซมีเทนล้วนๆ หรือบางครั้งก็อาจจะมีก๊าซไฮโดรคาร์บอนผสมผสานอยู่ด้วยบ้าง โดยการที่จะเกิดขึ้นมาเป็นก๊าซประเภทใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับต้นกำเนิดว่ามีสิ่งใดมาทับถมกันบ้าง หากแต่จากธรรมชาติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ก็จะประกอบด้วยก๊าซมีเทน ปริมาณ 70% ขึ้นไป นอกจากนี้บางครั้งก็อาจจะยังมี ก๊าซไฮโดรคาร์บอนชนิดอื่นเข้ามาผสมอยู่ด้วย ‘ก๊าซธรรมชาติ’ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่… ก๊าซแห้ง – ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรคาร์บอน ประเภทอื่นๆ ที่เข้ามาปะปนผสมผสานอยู่ในก๊าซธรรมชาติที่ประกอบด้วยมีเทนเกือบทั้งหมด ก๊าซชื้น – เช่น เพนเทน หรือเฮกเทน เป็นต้น ซึ่งปะปนอยู่ในจำนวนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
พลังงานเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเริ่มใช้พลังงานกันตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก และเพิ่มปริมาณการใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ยิ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นเท่าไร พลังงานก็ถูกใช้ไปมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าตามทฤษฎีจะบอกเอาไว้ว่าพลังงานไม่มีวันสูญหายมีแต่เปลี่ยนรูปไปเป็นอย่างอื่น แต่เพียงแค่เปลี่ยนรูปไปเราก็ไม่อาจใช้ประโยชน์จากพลังงานนั้นได้อีก หรือหากจะใช้ก็ต้องเสียงบประมาณและทรัพยากรจำนวนมากในการเปลี่ยนรูปพลังงานให้กลับมาอยู่ในประเภทที่เราใช้งานได้ ดังนั้นเราจึงต้องเห็นคุณค่าของพลังงานที่มีอยู่พร้อมกับร่วมกันอนุรักษ์ให้พลังงานเหล่านั้นมีเหลือเฟือเพียงพอไปสู่คนรุ่นหลังต่อไป แนวทางในการอนุรักษ์พลังงาน หากจะให้นิยามของคำว่า “อนุรักษ์พลังงาน” แบบที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด ก็คงจะเป็นการนำพลังงานมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด แล้วก็ใช้อย่างประหยัดด้วย ส่วนใดที่ลดทอนได้ก็ทำเสีย จะได้เอาส่วนที่ลดทอนนั้นไปทำประโยชน์ในด้านอื่นๆ ต่อไป ซึ่งรูปแบบของการอนุรักษ์พลังงานก็ทำได้หลายอย่าง เริ่มจากหน่วยย่อยๆ คือตัวเราเอง ให้หมั่นสังเกตว่าเราใช้พลังงานอะไรบ้างในแต่ละวัน นับตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอนอีกครั้ง มีตรงไหนบ้างที่เราจะลดการใช้พลังงานได้ เช่น ถ้าต้องขับรถไปทำงาน มีคนในบ้านที่จะไปทางเดียวกันหรือไม่ ภายในบ้านจำเป็นต้องเปิดแอร์ทำความเย็นตลอดเวลาหรือเปล่า เป็นต้น พอเริ่มการอนุรักษ์พลังงานที่ตัวเองแล้วก็ขยายไปสู่ครัวเรือนและสังคมต่อไป ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างของแนวทางในการอนุรักษ์พลังงานที่ทุกครัวเรือนสามารถร่วมมือร่วมใจกันได้ง่ายๆ แล้วก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจด้วย เพียงแค่คนละไม้คนละมือเราก็จะช่วยดูแลโลกใบนี้ได้มากเลยทีเดียว – ปลูกต้นไม้ภายในรั้วบ้านและที่ดินของตัวเอง ต้นไม้เป็นแหล่งผลิตที่ยอดเยี่ยม ผลิตทั้งอาหาร อากาศที่บริสุทธิ์ ทั้งยังช่วยลดความร้อนได้อีกด้วย ถ้าทุกบ้านปลูกต้นไม้เหมือนกันหมด พื้นที่โดยรวมก็จะมีต้นไม้มากพอที่จะฟอกอากาศและลดภาวะโลกร้อนได้เอง – ดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพดี นี่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนมองข้ามไป อุปกรณ์ตัวไหนที่เริ่มเก่า เริ่มมีร่องรอยของความชำรุด เวลาใช้งานมันจะกินพลังงานไฟฟ้าค่อนข้างมาก ก็ให้เราซ่อมแซมให้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ก็ตัดใจเปลี่ยนชิ้นใหม่ดีกว่า – ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในบ้าน แน่นอนว่าต้องเริ่มที่ตัวเรา พอเราเปลี่ยนเดี๋ยวคนในบ้านก็จะเปลี่ยนตามโดยธรรมชาติ ให้ลดการกระทำที่ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน เช่น เปิดไฟทิ้งไว้ เปิดแอร์ทิ้งไว้ เป็นต้น – เลือกใช้พลังงานทดแทนอย่างเหมาะสม พลังงานทดแทนนั้นมีทั้งแบบสิ้นเปลืองและหมุนเวียน หลายอย่างเราจัดการได้เองในครัวเรือน เช่น การใช้น้ำ ถือเป็นพลังงานหมุนเวียนได้ เราเพียงแค่วางแผนการใช้น้ำให้ดีก็พอ ข้อดีของการอนุรักษ์พลังงาน พลังงานที่กำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ
เรามักจะได้ยินคนพูดถึงเรื่องพลังงานกันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความเกี่ยวข้องของมนุษย์กับการใช้พลังงาน นวัตกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาต่อยอดในเรื่องพลังงาน ไปจนถึงรูปแบบและวิธีการในการอนุรักษ์พลังงานที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพลังงานคืออะไรกันแน่ มันคือไฟฟ้า น้ำมัน และแก๊สหุงต้มหรือเปล่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรจะเข้าข่ายเป็นพลังงานได้บ้าง วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจให้ชัดเจนมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน นิยามของพลังงาน ถ้าอธิบายตามสมการในเชิงฟิสิกส์ เราจะพบว่าพลังงานก็คืออีกรูปแบบหนึ่งของงาน ซึ่งงานนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการกระทำบางอย่างในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ พลังงานจึงเป็นสิ่งที่มีอยู่ไม่ว่าเราจะมองเห็นหรือไม่ แต่มันจะมีผลกระทบต่อบางสิ่งบางอย่างได้ เช่น พลังงานความร้อน ทำให้เกิดความร้อนได้ พลังงานกล ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้ เป็นต้น เรานิยมวัดหน่วยพลังงานเป็นจูล เช่นเดียวกับการวัดหน่วยของงาน และในภาคคำนวณเราสามารถทดแทนกันระหว่างงานกับพลังงานได้ พูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ สถานการณ์หนึ่งมีค่าของงานเท่าไร ก็สามารถตีความได้ว่ามีค่าของพลังงานเท่าเทียมกัน พลังงานในธรรมชาติมีอยู่หลายรูปแบบ และมันสามารถเปลี่ยนรูปแบบไปมาได้โดยไม่มีพลังงานส่วนใดที่สูญหายไป ตัวอย่างของการแปรรูปพลังงานก็คือ การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานความร้อนหรือพลังงานไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานน้ำเป็นพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น การเปลี่ยนรูปพลังงานบางอย่างก็เกิดขึ้นได้เองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร แต่บางอย่างก็ต้องอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย ประเภทของพลังงาน จริงๆ แล้วประเภทของพลังงานมีค่อนข้างเยอะ แล้วมันก็มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นได้อีกหากมีการค้นพบเพิ่มเติมในภายหลัง ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำให้รู้จักกับประเภทของพลังงานที่สำคัญๆ เท่านั้น และเป็นประเภทพลังงานที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ด้วย betflix123 1. พลังงานความร้อน อะไรก็ตามที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ก็ล้วนแล้วแต่มีพลังงานความร้อนรวมอยู่ด้วยทั้งหมด ตัวอย่างของแหล่งกำเนิดพลังงานความร้อนได้แก่ ดวงอาทิตย์ หลอดไฟ กองไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีพลังงานความร้อนที่อยู่ในลักษณะของการเปลี่ยนแปลงเชิงเคมีในร่างกายอีกด้วย นั่นก็คือระดับแคลอรีของระบบเผาผลาญนั่นเอง 2. พลังงานไฟฟ้า ส่วนใหญ่แล้วพลังงานไฟฟ้าเป็นประเภทที่ได้รับการแปรรูปมาแล้วจากพลังงานประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะมาจากพลังงานความร้อน พลังงานคลื่น พลังงานเคมี พลังงานเกือบทุกประเภทสามารถดัดแปลงให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้หมด ต่างกันเพียงแค่ว่าอะไรจะต้องใช้งบประมาณมากกว่ากัน และมันคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่เท่านั้นเอง
พลังงานในโลกของเราแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่… พลังงานใช้แล้วหมดไป หรือพลังงานฟอสซิล เช่น น้ำมัน , ถ่านหิน , ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น สำหรับพลังงานประเภทนี้ใช้แล้วหมด และพลังงานพวกนี้ตามปกติแล้วจะอยู่ใต้ดิน พลังงานใช้ไม่หมด หรือ พลังงานหมุนเวียน เช่น ไม้ , น้ำ , แสงอาทิตย์ , คลื่น เป็นต้น สามารถหามาทดแทนได้ เช่น ปลูกต้นไม้พิเศษเพื่อนำไม้มาทำกระดาษ , พลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นต้น ที่มาของพลังงาน ‘เชื้อเพลิงฟอสซิล’ ‘เชื้อเพลิงฟอสซิล’ คือ เชื้อเพลิงประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นเชื้อเพลงที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่บรรพกาล เกิดจาก พืชเน่า , ซากสัตว์ ที่ตายลงหลังจากนั้น ก็จะเกิดการเน่าเปื่อยทับถมกันเป็นเวลายาวนานนับล้านปี โดยซากเน่าเหล่านี้มักทับถมใต้ท้องทะเล หรือพื้นดินที่อยู่ในชั้นลึก สำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิล ได้แก่ ถ่านหิน , น้ำมันดิบ รวมทั้งก๊าซจากธรรมชาติ พลังงานเคมีเหล่านี้จะถูกสะสมไว้เป็นเวลายาวนาน และต่อมาเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี ขึ้นมา แล้วเกิดการเผาไหม้ก็จะทำให้เกิดพลังงานความร้อนออกมา สำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิส สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่… เชื้อเพลิงแข็ง มีสถานะเป็นของแข็ง ส่วนธาตุที่เป็นองค์ประกอบ มักจะประกอบด้วย คาร์บอน , ไฮโดรเจน , ออกซิเจน , เถ้า เป็นต้น ต่อมาเมื่อเชื้อเพลงชนิดนี้
พลังงาน Ionization ภาษาอังกฤษเรียกว่า Ionization Energy ชื่อย่อคือ IE จัดเป็นค่าพลังงานชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ในการดึงให้อิเล็กตรอนวงนอกสุด หรือ Valence electron ให้หลุดออกจากอะตอม ซึ่งอยู่ในสถานะก๊าซ